โรคเส้นเลือดขอดของถุงอัณฑะ
(Varicocele) เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำในถุงอัณฑะ (Pampiniform plexus) ขยายใหญ่อันเนื่องมาจาก
ลิ้นปิดกั้นในหลอดเลือดดำ internal
spermatic vein (ISV) ปิดไม่สนิท หรือไม่มีลิ้นปิดกั้นในหลอดเลือดดำ
แสดงเส้นเลือดขอด( varicocele) ข้างซ้าย หลอดเลือดดำมีขนาดใหญ่และคดงอ |
ภาวะนี้พบถึง10%-15%
ในประชากรทั่วไป พบได้ถึง 30%-40% ในผู้ชายที่มีมาปรึกษาภาวะการมีบุตรยาก ยังไม่ทราบแน่ชัดนักว่าเหตุใด ผู้ที่เป็นภาวะนี้จึงมีอัตราการเป็นหมันสูงกว่าคนทั่วไป
อาการแสดง
ผู้มีเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะโดยไม่มีอาการพบมากถึง
95%
หลายๆคนไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองคลำได้ก้อนที่ตอนบนของถุงอัณฑะ
จนกระทั่งได้มาปรึกษาแพทย์เรื่องการมีบุตรยาก
บางคนเป็นมากจึงรู้สึกว่าคลำได้ก้อนเหนือถุงอัณฑะ
และปวดถ่วงๆ โดยเฉพาะเวลายืน หรือเบ่งท้อง
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยโดยการคลำได้ก้อนลักษณะคล้ายหนอนอยู่ตอนบนของถุงอัณฑะ
หากทำอัลตร้าซาวดน์ก็จะเห็นหลอดเลือดดำกระจุกตัวมากขึ้นในถุงอัณฑะ
การทำหัตถการ
สามารถเข้าถึงหลอดเลือดดำได้ทั้งทาง right common femoral vein และ right internal jugular vein
ภาพอัลตร้าซาวนด์ถุงอันฑะข้างซ้ายแสดง หลอดเลือดดำขอดในถุงอัณฑะ (ตอนล่างขวาของภาพ) เป็นท่อคล้ายตัวหนอนพันกัน |
การรักษาด้วย Embolization
ข้อบ่งชี้
สำหรับ Left ISV Venography and
Embolization
ปวดบวมบริเวณถุงอัณฑะ
พบเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะและมีภาวะผิดปกติของน้ำอสุจิ
เช่น ตัวอสุจิเคลื่อนที่น้อยกว่า 60%
จำนวนอสุจิน้อยกว่าปกติและรูปร่างตัวอสุจิผิดปกติ
พบเส้นเลือดขอดบริเวณถุงอัณฑะอีกหลังการผ่าตัดรักษา
พบเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะและลูกอัณฑะฝ่อในผู้ป่วยเด็ก
สำหรับ right ISV
พบเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะจากตรวจร่างกายและอัลตร้าซาวนด์
ที่มีความสัมพันธ์กับอาการปวดหรือการมีบุตรยาก
การกลับเป็นซ้ำของเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะข้างซ้ายโดยไม่พบว่ามีหลอดเลือดอื่นติดต่อกับเส้นเลือดขอดจากการตรวจ
Left
renal venography
ข้อห้ามทำ
ข้อห้ามในการทำเอกซเรย์หลอดเลือด
ประวัติแพ้สารทึบรังสีอย่างรุนแรง
ภาวะเลือดหยุดยากที่ไม่สามารถควบคุมได้
ไตเสื่อม
การเตรียมตัวก่อนทำหัตถก
สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอก
ควรมีผลอัลตร้าซาวนด์ก่อนรักษา
และจะทำหลังรักษาอีกครั้งประมาณ 2
เดือนเพื่อประเมิน thrombosis ใน varicocele
การเตรียมตัวเหมือนเตรียมตัว
Venography
จาก right femoral vein
LAB workup เช่น Hb, Hct,
Platelet count, PT/PTT, BUN,Cr
หากตรวจตอนเช้าให้รับประทานแต่น้ำตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวาน
หากตรวจในตอนบ่ายให้รับประทานแต่น้ำหลังอาหารเช้า
เซ็นใบยินยอมรับการตรวจ
พยายามใช้รังสีเอ็กซเรย์ต่อ
scrotum
ให้น้อยที่สุด การทำหัตถการ
สามารถเข้าถึงหลอดเลือดดำได้ทั้งทาง right common femoral vein และ right internal jugular vein
Catheter
กรณีเข้าถึงหลอดเลือดทาง femoral
vein
ถ้าเป็น left
varicocele: 7Fr Gonadal catheter
(cordis) , 4Fr-5Fr glide Berenstein catheter, 3Fr microcatheter อาจจำเป็นในกรณีที่เข้าถึงหลอดเลือดที่เล็กและคดเคี้ยว
ถ้าเป็น right
varicocele: Simmon-1 (‘sidewider’ – shepherd’s crook) catheter
ถ้าเป็นการเข้าถึงหลอดเลือดทาง internal
jugular vein
ใช้ Multipurpose
catheter สามารถเข้าไปในทั้ง left and right spermatid veins
กรณีสอดหลอดสวนเข้าทาง
right femoral vein
ใส่ Gonadal
catheter เข้าไปถึง left renal vein พยายามหาปลายเปิดของ
internal spermatic vein (ISV) ให้ได้โดยฉีด contrast
media หาไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ให้ผู้ป่วยทำ Valsalva
Maneuver พร้อมๆกัน ถ้าเห็น contrast reflux เข้าไปใน
ISV จนถึง varicocele ก็ให้สอด catheter
ที่เล็กกว่า คือ Berenstein 4Fr-5Fr ค่อยๆฉีด contrast media เพื่อตรวจหา collateral veins อื่นๆ เช่น renal
hilum หรือ paralumbar หากผู้ป่วยทำ Valsalva Maneuver ไม่ดีให้ปรับเอียงเตียงหัวสูง 45 องศา
กรณีสอดหลอดสวนเข้าทาง
right internal jugular vein
ใช้ Multipurpose
catheter 7Fr เข้ามาจ่อถึงปากทาง left ISV แล้วใช้
Microcatheter ขนาด 3Fr ใส่เข้าไปใน left
ISV
วัดขนาดของหลอดเลือดดำที่จะ embolized
กรณีที่จะต้องนำ catheter
เข้า right renal vein เพื่อหา ostium ของ right ISV หลังจากที่หาตรงตำแหน่ง IVC แล้ว ควรใช้ microcatheter ลอดผ่าน guiding
catheter เข้าไปหา
โดยทั่วไปจะพยายามไม่ใช้ guide
wire เนื่องจากมันอาจจะกระตุ้น vasospasm ซึ่งจะทำให้กระบวนการต่อๆไปยากขึ้นไปอีกและบดบังการเห็น
collateral veins และอุดเส้นเลือดไม่ครบทั้งหมด
วิธีการอุดที่นิยมในอเมริกาได้แก่การใส่
coil
และ sclerotherapy ร่วมกันซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาได้มากกว่าวิธีอื่น
โดยทำดังนี้
ปล่อย coil ที่ proximal ISV ตำแหน่ง inguinal canal โดยใช้ 14-cm, platinum Nester coil (Cook Medical) ใช้ขนาด 20% ใหญ่กว่าขนาดของ ISV หรือจะใช้ high radial force stainless steel หรือ MReye coil (Cook) ประมาณ 2-3 ตัว
ต่อมาทำ venograms (ขณะ Valsalva Maneuver) ตรวจว่า flow ไม่ย้อนลงไปใน Pampiniform plexus แล้ว
ต่อมาให้เตรียม 1% Polidocanol เป็น Foam ฉีดเข้าใน ISV ตลอดแนว (ประมาณ 2-3 ml) ขังไว้ 1-2 นาที ตลอดเวลานี้ให้ผู้ป่วยทำ Valsalva ตลอด ตำแหน่งบนสุดที่ไม่เห็น Parallel collateral ถือเป็นจุดสิ้นสุดการฉีด foam
กรณีใช้ guiding
catheter 4Fr หรือ 5Fr สามารถใช้ coil
diameter 0.035”-0.038”
กรณีที่ต้องใช้ Microcatheter
ต้องใช้ coil มี diameter 0.018”
การดูแลหลังการรักษา
หลังจากนำ vascular
sheath ออกกดห้ามเลือดที่ปากแผลไว้นาน 5-10 นาทีแล้วปิดแผลไว้ด้วยพลาสเตอร์
นอนราบบนเตียงนาน 60
นาที หลังจากนั้นถ้า
ผู้ป่วยตื่นดีและไม่มีอาการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ให้ญาติพากลับบ้านได้
ยาแก้ปวด:
มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง (10%) อาจมีอาการปวดหลังซึ่งสามารถระงับด้วยยาแก้ปวด
acetaminophen หรือ Non-steroid-anti-inflammatory Drugs
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะ coil
หลุดไปยังหลอดเลือด pulmonary artery ในปอด
Venous perforation หลอดเลือดดำทะลุ
ซึ่งมักจะหยุดได้เอง เพียงรอประมาณ 10 นาที
Phlebitis of Pampiniferous plexus with
testicular atrophy and aspermia
ผลการรักษา
ผลการทำหัตถการสำเร็จ 100%
ผู้ป่วย 30%-35%
กลับมามีน้ำอสุจิที่ปกติ
การฟื้นตัวหลังรักษา
ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงานได้หลังจากวันรักษา เปรียบเทียบกับหลังผ่าตัดซึ่งพักฟื้น 6วันจึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ