- ภาวะผิดปกติแต่กำเนิด
- การอักเสบ
- เนื้องอก (ทั้งเนื้อร้ายและที่ไม่ไช่เนื้อร้าย)
ก้อนนูนบริเวณด้านหน้าค่อนมาทางซ้ายของคอ |
แนวทางการวินิจฉัยก้อนบริเวณคอ
มีดังต่อไปนี้
- หลังจากแพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว หากแพทย์สงสัยเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบจะลองให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียมารับประทานดูก่อน ครบสามสัปดาห์ หากอาการดีขึ้นก็ไม่ต้องตรวจเพิ่มเติมก้อนยุบลงก็ดีไป แต่หากอาการไม่ดีขึ้นจะต้องมาตรวจหาสาเหตุต่อไป
- โดยทั่วไปถ้าก้อนไม่ยุบลงภายในสามสัปดาห์แพทย์ต้องตรวจต่อด้วยภาพ เช่น คลื่่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonography), เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed tomography), เครื่องตรวจทางภาพด้วยคลื่นสะท้อนแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging) หากตรวจและวินิจฉัยด้วยภาพได้ก็เตรียมการรักษาต่อเลย แต่ถ้าตรวจทางภาพแล้วยังวินิจฉัยไม่ได้ก็จำเป็นต้องเจาะเก็บเนื้อเยื่อจากก้อนไปส่งตรวจ
- กรณีที่เจาะเก็บเนื้อเยื่อไปตรวจให้ผลวินิจฉัยโรคได้แล้วก็รักษา แต่หากยังไม่แน่ชัดจำเป็นต้องผ่าตัดเอาก้อนออกมาทั้งก้อนหรือบางส่วนตรวจทางพยาธิวิทยา
การเจาะเก็บเนื้อเยื่อจากก้อนที่คอ (Core Needle Biopsy)
กรณีที่แพทย์อัลตร้าซาวนด์พบว่าก้อนนี้เป็นเนื้อทึบ (Mass) ไม่ใช่ถุงน้ำ (cyst)
การเก็บเนื้อเยื่อจะต้องใช้เข็มใหญ่กว่าเข็มฉีดยา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 0.9-2.1 มิลลิเมตร และเป็นเข็มที่มีกลไกพิเศษในการเฉือนเนื้อเยื่อของก้อนให้ติดกับปลายเข็มออกมาภายนอกร่างกาย
ข้อบ่งชี้ในการส่งตรวจ
เนื้องอกบริเวณคอที่สามารถเห็นด้วยเครื่องมืออัลตร้าซาวนด์
ข้อห้ามในการตรวจ
การติดเชื้อของผิวหนังใกล้บริเวณที่สอดเข็ม
การเตรียมผู้ป่วย
ซักประวัติการใช้ยาละลายลิ่มเลือดกลุ่ม
Warfarin
หากไม่มีประวัตินี้ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวพิเศษแต่อย่างใด
แต่หากผู้ป่วยรับประทานยานี้อยู่จำเป็นต้องหยุดยาประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้วค่อยติดตามผลเลือด
prothrombin time ดูว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ หากยังผิดปกติอยู่ต้องรอหรือกรณีรอไม่ได้
จำเป็นต้องจอง Fresh Frozen Plasma มาให้ก่อนการเจาะ
ผู้ป่วยเป็นผู้ป่วยนอก
และไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร
การเตรียมอุปกรณ์
-
เครื่องอัลตร้าซาวนด์หัวตรวจความถี่สูงสุด
(7-12
MHZ)
-
ปากกาหมึก permanent
สำหรับทำเครื่องหมายบนผิวหนัง
-
ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่
sterile
สำหรับห่อหุ้มหัวตรวจอัลตร้าซาวดน์พร้อมยางรัด sterile
-
เข็ม Temno
II biopsy needle (Technomedical) ขนาด 18G X 9cm
-
Dressing set
-
ผ้าช่อง
-
Ultrasound jelly
2% Hibitaine solution
-
Xylocain 2% with adrenaline
-
Syringe 10 ml
-
เข็มยาชาเบอร์ 18G
and 24G
10% Formalin
วิธีการทำ
-
แพทย์ดูภาพอัลตร้าซาวดน์เก่าของผู้ป่วย
-
แพทย์ทำอัลตร้าซาวดน์หาตำแหน่งของก้อนเพื่อเอาหมึกระบุตำแหน่งบนผิวหนัง
-
แพทย์ทำความสะอาดผิวหนังด้วย Hibitaine solution
-
คลุมส่วนที่สะอาดด้วยผ้าช่อง
-
หุ้มหัวตรวจอัลตร้าวซาวนด์ด้วยพลาสติกใส
sterile
และรัดด้วยยางรัด
-
ฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าผิวหนัง
-
สอดเข็มTemno
II ขนาด 18G X 9cm เข้าในตัวก้อน
-
เมื่อได้ตำแหน่งเหมาะสมแพทย์จะดัน
stylet
เข้าไปในก้อนและ biopsy ผ่านการเห็นด้วยอัลตร้าซาวนด์
-
บันทึกภาพที่เข็มฝังอยู่ในตัวก้อน
- เขี่ยเนื้อเยื่อออกจากเข็ม
biopsy
แล้วแช่เนื้อเยื่อลงในน้ำยา 10% formalin
ปิดแผลด้วยผ้าก๊อสสะอาดและพลาสเตอร์กันน้ำ
ตัวอย่างภาพขั้นตอนการเจาะเก็บเนื้อเยื่อก้อนจากคอ
ผู้ป่วยรายนี้มีต่อมไธรอยด์กลีบขวาโต แพทย์ต้องการทราบภาวะผิดปกติในต่อมไธรอยด์ จึงส่งมาปรีกษาให้หมอเจาะชิ้นเนื้อ หลังจากหมอตรวจอัลตร้าซาวดน์แล้วพบว่าต่อมไธรอยด์โตทั่วๆเนื้อหยาบ
การเจาะเนื้อนี้เนื่องจากเป็นอวัยวะที่อยู่ตื้น จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใดๆสามารถทำได้ทันที
ขั้นตอนแรก ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
ต่อมาจะคลุมด้วยผ้าช่องปราศจากเชื้อและคลุมหัวตรวจอัลตร้าซาวนด์ด้วยถุงพลาสติกปลอดเชื้อ
ต่อมาแพทย์จะฉีดยาชาผ่านการนำทางด้วยภาพอัลตร้าซาวนด์
ฉีดยาชา |
ทำรอยบากที่จุดฉีดยาชาด้วยใบมีดเป็นรอยกว้างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
สอดเข็มสำหรับตัดเก็บเนื้อเยื่อเข้าไปในต่อมไธรอยด์ผ่านการนำทางด้วยภาพบนจออัลตร้าซาวนด์
สอดเข็มตัดเนื่อเยื่อเข้าไปในต่อมไธรอยด์ สังเกตที่จอมอนิเตอร์ของเครื่องอัลตราซาวดน์เห็นเข็ม (เส้นตรงสีขาว) พุ่งเข้าไปต่อมไธรอยด์ |
นำเนื้อเยื่อออกจากเข็ม
เขี่ยเนื้อเยื่อออกจากเข็มใส่ลงในขวด |
ใส่เนื้อเยื่อลงในขวดที่มีน้ำยาฟอร์มาลีนรักษาเนื้อเยื่อพร้อมส่งไปย้อมสีและตรวจด้วยกล้องขยายกำลังสูงต่อไป
เก็บรักษาเนื้อเยื่อไว้ในน้ำยาฟอร์มาลีนพร้อมส่งตรวจ |
หลังการเจาะจะมีรอยบาดแผลเล็กขนาดแค่ 3-5 มิลลิเมตร ดังรูป
รูแผลจากการเจาะเก็บเนื่อเยื่อขนาดเล็ก 3-5 มิลลิเมตร |
และปิดพลาสเตอร์ปิดแผลกันน้ำ ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลยและอาบน้ำได้ หลังจากนั้นอีก 1 วันแผลจะสมานกันและไม่จำเป็นต้องปิดพลาสเตอร์อีก
ปิดพลาสเตอร์กันน้ำเพื่อผู้ป่วยจะอาบน้ำได้เลย |
ภาพของเซลล์เนื้อเยื่อแสดงต่อมไธรอยด์อักเสบ |
การดูดเก็บเซลล์จากก้อนไปตรวจ (Fine Needle Aspiration:FNA)
การใช้เข็มดูดเซลล์เนื่อเยื่อไปตรวจ ใช้เข็มขนาดเล็ก (25 หรือ 27 Gauge) ต่อกับกระบอกฉีดยา ดูดเอาเซลล์เนื้อเยื่อจากก้อนมาส่งตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติ ยิ่งมีแผลเล็กมากอีก โดยจะเป็นเป็นเพียงจุดหรือไม่สามารถสังเกตเห็นด้วยตาเปล่าได้เลย
การเตรียมผู้ป่วย
ผู้ป่วยเป็นผู้ป่วยนอก และไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร
การเตรียมอุปกรณ์
- เครื่องอัลตร้าซาวนด์หัวตรวจความถี่สูงสุด (7-12 MHZ)
- ปากกาหมึก permanent สำหรับทำเครื่องหมายบนผิวหนัง
- ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่ sterile สำหรับห่อหุ้มหัวตรวจอัลตร้าซาวดน์พร้อมยางรัด sterile
เข็มฉีดยา เบอร์ 25G
Syringe ขนาด 10 ml
- Dressing set
Hibitaine solution (2%)
- ผ้าช่อง
- Ultrasound jelly
- Xylocain 2% with adrenaline
- Syringe 10 ml
- เข็มยาชาเบอร์ 18G and 24G
สไลด์แก้วสำหรับ smear cell
95% Ethanol สำหรับ fix เซลล์ในสไลด์แก้ว
วิธีการทำ
- แพทย์ดูภาพอัลตร้าซาวนด์เก่าของผู้ป่วย
- แพทย์ทำอัลตร้าซาวนด์หาตำแหน่งของก้อนเพื่อเอาหมึกระบุตำแหน่งบนผิวหนัง
- แพทย์ทำความสะอาดผิวหนังด้วย 2% Hibitaine
- คลุมส่วนที่สะอาดด้วยผ้าช่อง
- หุ้มหัวตรวจอัลตร้าวซาวนด์ด้วยพลาสติกใส sterile และรัดด้วยยางรัด
- ฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าผิวหนัง
- สอดเข็ม ขนาด 24G เข้าในตัวก้อน
- เมื่อได้ตำแหน่งเหมาะสมแพทย์จะต่อเข็มกับ syringe แล้ว ดูดเซลล์ออกมา
Ultrasound guided fine needle aspiration บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องคลุมผ้าช่องดังไปรูปนี้ |
- บันทึกภาพที่เข็มฝังอยู่ในตัวก้อน
แพทย์จะฉีดเซลล์ลงบนสไลด์ และให้ผู้ช่วยสเมียร์สไลด์และแช่ลงใน 95% Ethanol ทันที
ทำขั้นตอน aspiration ซ้ำ
- ปิดด้วยผ้าก๊อสสะอาดและปิดพลาสเตอร์ทับ
Fine Needle Capillary Sampling (FNC):
วิธีนี้เตรียมอุปกรณ์เหมือนกับวิธี FNA เลย
ข้อแตกต่างนิดเดียวคือ ในการเก็บเซลล์จะไม่ใช้วิธีดูด แต่แพทย์จะสอดเข็มขนาด25G เข้าไปในก้อนและขยับปลายเข็มแทงเข้าออกซ้ำๆหลายสิบครั้งในตัวก้อนไปทั่วๆหลายพื้นนที่ของก้อน เซลล์ก็จะเข้าไปสะสมอยู่ในรูเข็ม
ลองดูวิดีโอแสดงวิธี
Fine Needle Capillary Sampling
เปรียบเทียบวิธี FNA กับ FNC
วิธี FNC กำลังจะได้รับความนิยมเหนือวิธี FNA เพราะวิธี FNA ใช้แรงดูดมักจะทำให้เนื้อเยื่อช้ำและเลือดปนมากกว่าวิธี FNC และทำให้ FNA ให้ผลอ่านเซลล์แปลผลไม่ได้สูงกว่าวิธี FNC
กลับสู่หน้า สารบัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
พิมพ์คำถามหรือข้อเสนอแนะที่นี่
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น